ไทยชิงจ่าฝูงกลุ่มเออาเซียนคัพ

ไทยชิงจ่าฝูงกลุ่มเออาเซียนคัพ

ฟุตบอลเอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็คทริก คัพ 2022

วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม 2565 

ทีมชาติไทย 4-0 ฟิลิปปินส์

การแข่งขันฟุตบอลเอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็คทริก คัพ 2022 ประจำวันจันทร์ที่ 26 ธ.ค.65 ที่สนามธรรมศาสตร์ สเตเดี้ยม เวลา 19.30 น. เป็นเกมของรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ คู่ระหว่าง จ่าฝูง ทีมชาติไทย

ที่มี 3 แต้ม จาก 1 นัด เปิดบ้านพบกับ ทีมชาติฟิลิปปินส์ รองจ่าฝูงที่มี 3 แต้ม จาก 2 นัดเช่นกัน แต่ผลต่างประตูได้เสียไทยดีกว่า

รายชื่อผู้ตัดสิน : ยามาโมโตะ ยูดาอิ (ญี่ปุ่น), ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 : นิชิฮาชิ อิซาโอะ (ญี่ปุ่น), ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 : ทาคากิ ทาคุมิ (ญี่ปุ่น), ผู้ตัดสินที่ 4 : สายปะเสียท พงษ์สะนิด (สปป.ลาว)

โดยเกมนี้ทัพ “ช้างศึก” ที่มี “มาโน่ โพลกิ้ง” คุมทัพ โดยมี “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ เป็นผู้จัดการทีม ยังคงใช้ขุมกำลัง 11 คนแรกชุดเดิมที่บุกไปเอาชนะ บรูไน 5-0 

น.3 เจ้าถิ่นช้างศึก ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็วจากจังหวะลูกฟรีคิกริมเส้นขวา ธีราทร บุญมาทัน เปิดบอลโค้งๆไปที่จุดนัดพบ

และเป็น ธีรศิลป์ แดงดา ขึ้นโขกเน้นๆสะบัดบอลหนีมือ จูเลียน ชวาร์เซอร์ นายด่านฟิลิปปินส์เข้าประตูไปอย่างสวยงาม

น.18 ไทย เกือบหนี 2-0 จาก กฤษดา กาแมน ที่ส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายไปแล้ว แต่ถูกผู้กำกับเส้นชาวญี่ปุ่น ยกธงให้เป็นจังหวะล้ำหน้า

ถัดมา 2 นาทีเป็นโอกาสของ บดินทร์ ผาลา ที่ได้จังหวะพาบอลเลี้ยงตะลุยเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะโยกเข้าขวาข้างถนัดและซัดเต็มข้อ ทว่าบอลดันพุ่งไปชนคานเต็มๆออกไปอย่างน่าเสียดาย

น.30 ไทย ที่ขึงเกมไว้ได้อยู่หมัดน่าบวกสกอร์เพิ่มได้อีกเมื่อ ธีราทร บุญมาทัน ตักบอลข้ามแนวรับฟิลิปปินส์ มาที่เสาสองให้กับ

เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่สอดขึ้นมาไม่ล้ำหน้าโหม่งจ่อๆไร้ตัวประกบ แต่บอลดันข้ามคานออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ

น.39 ไทย มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ เอกนิษฐ์ ปัญญา พยายามพลิกตัวแต่ถูกผู้เล่นฟิลิปปินส์ เข้ามาแซะข้อเท้าล้มลงไป ก่อนที่ น.41 ธีรศิลป์ แดงดา จะรับหน้าที่สังหารจุดโทษเข้าไปไม่พลาดช่วยให้ไทยหนีเป็น 2-0 และเป็นลูกที่สองของ “เจ้ามุ้ย” ในเกมนี้ด้วย

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติมก่อนจะจบครึ่งแรก ทีมชาติไทย เปิดบ้านออกนำ ฟิลิปปินส์ 2-0

เข้าสู่ครึ่งหลัง น.57 ไทย มาได้ประตูเพิ่มเป็น 3-0 จากจังหวะที่ ธีรศิลป์ แดงดา ดูดบอลลงกับพื้นอย่างเหนือชั้นก่อนปาดเข้ากลาง อดิศักดิ์ ไกรษร วิ่งเข้ามายิงโป้งเดียวส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย

น.63 ทัพ “ช้างศึก” บวกสกอร์เพิ่มหนีเป็น 4-0 จากจังหวะที่ บดินทร์ ผาลา พาบอลเลี้ยงลุยเข้ามาในเขตโทษ บอลขลุกขลิกไปแฉลบแนวรับฟิลิปปินส์ ก่อนที่บอลจะมาเข้าทาง ศุภนันท์ บุรีรัตน์ จิ้มบอลเข้าประตูไปอย่างง่ายดาย

น.74 โอกาสจะแจ้งหนแรกของฟิลิปปินส์ในเกมนี้เมื่อ ฮิคารุ มิเนกิชิ ได้โหม่งในเขตโทษไปเสาสอง กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก มือกาวช้างศึก ต้องออกแรงเซฟบินชกบอลทิ้งออกหลังไปได้

จบเกม ทีมชาติไทย เปิดบ้านเอาชนะ ฟิลิปปินส์ ไปอย่างขาดลอย 4-0 ทำให้ “ช้างศึก” ลงเตะ 2 นัด เก็บ 6 แต้มเต็ม ยังรั้งจ่าฝูงของกลุ่ม

ด้วยลูกได้-เสียที่ดีกว่าอินโดนีเซีย (ไทย +9, อินโดฯ +8) ส่วนฟิลิปปินส์ ลงเตะ 3 นัด มี 3 แต้ม รั้งอันดับ 4 ของกลุ่ม โอกาสเข้ารอบต่อไปแทบริบหรี่

สำหรับโปรแกรมต่อไปทัพ “ช้างศึก” เตรียมลงเตะนัดที่ 3 บุกไปเยือน อินโดนีเซีย ในวันพฤหัสบดีที่ 29 ธ.ค.65 ที่สนามเกลอรา

บังการ์โน สเตเดี้ยม (เสนายัน) เวลา 16.30 น. ส่วนฟิลิปปินส์ จะได้พัก 6 วันเต็มรอลงเล่นนัดที่ 4 เปิดบ้านพบกับ อินโดนีเซีย ในวันจันทร์ที่ 2 ม.ค.66 ที่สนามริซาล เมมโมเรียล เวลา 19.30 น.

ติดตามข่าวฟุตบอล :: ข่าวฟุตบอล

ขอขอบคุณข้อมูลจาก :: บอลคาบ้าน

ติดตามผ่านช่องทางโซเชี่ยลมีเดีย :: ballkaban